เมนู

อธิบายปุพเพกตเหตุวาทะ


บทว่า ปุพฺเพกตเหตุ แปลว่า เพราะกรรมที่คนทำไว้ในชาติก่อน
เป็นเหตุ อธิบายว่า บุรุษบุคคลเสวย (สุขเวทนา ทุกขเวทนา หรือทุกขม-
สุขเวทนา) เพราะกรรมที่คนทำไว้ในชาติก่อนเป็นปัจจัยเท่านั้น. ด้วยบทว่า
ปุพฺเพกตเหตุ นี้ มิจฉาทิฏฐิกบุคคลทั้งหลายปฏิเสธ กรรมเวทนา (เวทนา
เกิดแต่กรรม) และกิริยเวทนา (เวทนาเกิดแต่กิริยา) ยอมรับแต่เฉพาะวิปาก
เวทนา (เวทนาที่เกิดจากวิบาก) อย่างเดียวเท่านั้น.

ว่าด้วยโรค 8 อย่างเป็นต้น



พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสโรคไว้8อย่างเหล่านี้ คืออาพาธมีน้ำดี(กำเริบ)
เป็นสมุฏฐาน 1 อาพาธมีเสมหะเป็นสมุฏฐาน 1 อาพาธมีลมเป็นสมุฏฐาน 1
อาพาธที่เกิดจากโรคดี โรคเสมหะ โรคลม มาประชุมกัน 1 อาพาธที่เกิดจาก
เปลี่ยนฤดู 1 อาพาธที่เกิดจากการบริหาร (ร่างกาย) ไม่ถูกต้อง 1 อาพาธ
ที่เกิดจากการพยายาม (ทำให้เกิดขึ้น) 1 อาพาธที่เกิดจากวิบากกรรม 1. ใน
โรคทั้ง 8 อย่างนั้น. มิจฉาทิฏฐิกบุคคลปฏิเสธโรค 7 อย่างข้างต้นแล้วยอมรับ
แต่เฉพาะโรคชนิดที่ 8 เท่านั้น.
ในบรรดากองแห่งกรรม 3 ชนิด ที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ คือ
ทิฏฐธรรมเวรทนียกรรม (กรรมให้ผลในภพปัจจุบัน) 1 อุปปัชชเวทนีย-
กรรม
(กรรมให้ผลในภพถัดไป) 1 อปรปริยายเวทนียกรรม (กรรมให้
ผลในภพต่อ ๆ ไป) 1 มิจฉาทิฏฐิกบุคคลปฏิเสธกรรม 2 ชนิด (ข้างต้น )
ยอมรับแต่เฉพาะอปรปริยายกรรม อย่างเดียวเท่านั้น. แม้ในกองวิบาก 3 ชนิด
ที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ คือ ทิฏฐธรรม เวทนียวิบาก (วิบากของกรรม
ที่ให้ผลในปัจจุบัน) 1 อุปปัชชเวทนียวิบาก (วิบากของกรรมที่ให้ผลในภพ
ถัดไป) 1 อปรปริยายเวทนียวิบาก (วิบากของกรรมที่ให้ผลในภพต่อๆไป)1.

มิจฉาทิฏฐิกบุคคลปฏิเสธวิบาก 2 อย่าง (ข้างต้น) ยอมรับแต่เฉพาะอปร-
ปริยายวิบากอย่างเดียวเท่านั้น.
แม้ในกองเจตนา 4 ชนิด ที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ คือ กุศล
เจตนา 1 อกุศลเจตนา 1 วิปากเจตนา 1 กิริยเจตนา 1
มิจฉาทิฏฐิก
บุคคลปฏิเสธเจตนา 3 ชนิด ยอมรับแต่เฉพาะวิปากเจตนาอย่างเดียวเท่านั้น.

อธิบายอิสสรนิมมานเหตุ


บทว่า อิสฺสรนิมฺมานเหตุ แปลว่า เพราะการนิรมิตของพระอิศวร
เป็นเหตุ. อธิบายว่า บุรุษบุคคลเสวยสุขเวทนา ทุกขเวทนา หรือทุกขม-
สุขเวทนา ก็เพราะถูกพระอิศวรนิรมิต (บันดาล). ด้วยว่า มิจฉาทิฏฐิกบุคคล
เหล่านั้นมีความเข้าใจดังนี้ว่า เวทนาทั้ง 3 นี้ บุรุษบุคคลไม่สามารถเสวยได้
เพราะมีกรรมที่ตนทำไว้ในปัจจุบัน เป็นมูลบ้าง เพราะสั่งบังคับ (ของคนอื่น)
เป็นมูลบ้าง เพราะกรรมที่ตนทำไว้ในชาติก่อนบ้าง เพราะไม่มีเหตุไม่มีปัจจัย
(คือ โดยบังเอิญ) บ้าง แต่บุรุษบุคคลเสวยเวทนาเหล่านี้ได้ เพราะการนิรมิต
ของพระอิศวรเป็นเหตุอย่างเดียว.
ก็มิจฉาทิฏฐิกบุคคลเหล่านี้มีวาทะอย่างนี้ จึงไม่ยอมรับโรคแม้ชนิด
หนึ่งในบรรดาโรค อย่างที่กล่าวไว้แล้วในตอนต้น ปฏิเสธทั้งหมด และไม่
ยอมรับกรรมชนิดหนึ่งในบรรดากองกรรม 3 ชนิด วิบากชนิดหนึ่งในบรรดา
กองวิบาก 3 ชนิด และเจตนาชนิดหนึ่งในบรรดากองเจตนา 4 ชนิด ที่กล่าว
ไว้แล้วในตอนต้น ปฏิเสธทั้งหมด.

อธิบายอเหตุปัจจยา


บทว่า อเหตุอปจฺจยา ได้แก่ เว้นจากเหตุและปัจจัย. อธิบายว่า
บุรุษบุคคลเสวยสุขเวทนา ทุกขเวทนา หรืออทุกขมสุขเวทนา โดย
ไม่มีเหตุเลย. ด้วยว่า มิจฉาทิฏฐิกบุคคลเหล่านั้นมีความเข้าใจดังนี้ว่า เวทนา